ปีที่แล้วบอกว่าปีนี้ขอให้ชิวกว่าปีที่แล้ว แต่ทุกอย่างตรงข้ามและรู้สึกเป็นปีที่โหดไม่ใช่น้อย เป็นปีที่ทำอะไรหลายอย่างมากกว่าที่คิดมาก ทั้งเรื่องงานและส่วนตัว จบปีแล้วรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม อย่างนึงที่เขียนไว้ปีที่แล้วและทำได้จริงคือเที่ยวน้อยลง ปีนี้แทบไม่ได้เที่ยวเลยนอกจากพาที่บ้านมาที่นี่ (ซึ่งก็มาเจออากาศที่เลวร้ายช่วงเดือนเมษายนอีก) ส่วนครึ่งหลังของปีก็แทบจะยุ่งอยู่กับการซื้อบ้าน
งาน #
งานปีนี้เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เห็นข่าว Layoff ทั้งปี ส่วนงานตัวเองก็เปลี่ยนทีมสองสามรอบ หลังจากเมษายนก็เริ่มเห็นเพื่อนร่วมงานหายไปสอง-สามคน จนสองสามเดือนที่แล้วมีประกาศ Layoff แล้วเพื่อนที่อยู่ในทีมทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ต้นหาย ก็รู้สึกเคว้งๆ แล้วก็มีจัดทีมใหม่อีก ทีมที่ทำอยู่ตั้งแต่ต้นปีถูกจับรวมกับอีกทีม สุดท้ายก็คนประมาณเท่าเดิม แต่ตอนนี้ต้องดูแลเยอะขึ้น คิดอยู่ว่าอยากเปลี่ยนงานตลอดหลังกลางปีนี้ หลังจากเรื่องบ้านเสร็จ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้บ้านเร็วขนาดนี้ กลายเป็นว่าปลายปีวุ่นสองอย่าง เลยเลิกคิดจะหางานใหม่ ปีหน้าค่อยคิดอีกทีหละ
บ้าน #
เป็นเรื่องที่ใหญ่สุดของปีนี้แล้ว คิดว่าจะเลิกเช่าบ้านเพราะค่าเช่าเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละ 5% จากปีแรกที่มาอยู่จ่ายเดือนละ €1600 แต่เพิ่มมาสองปี ปีนี้จ่ายเดือนละ €1800 ลองเทียบกับ Mortgage ที่ต้องจ่ายแล้วเรียกว่าเกินครึ่ง ตอนแรกคิดว่าจะค่อยหาช้าๆ แต่ปีนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว 😬 เลยโดนเร่งให้รีบหาจนสุดท้ายได้บ้านแถว Bennekom
ทำไมเลือก Bennekom
- มีรถไฟ Intercity ที่สามารถเข้า Amsterdam ได้ใน 1 ชั่วโมง (Door to door ตอนนี้ 1 ชั่วโมงครึ่ง) ข้อนี้สำคัญเพราะต้องเข้า office ที่ Amsterdam อาทิตย์ละ 2 วัน
- ใกล้ป่า เนื่องจากตอนนี้มีหมาสองตัว (German sheperd) แล้วการพาหมาออกมาเดินใน Amsterdam น่าปวดหัวมากโดยเฉพาะเวลาขึ้นลง lift หาบ้านใหม่เลยมี requirement นี้เพิ่มขึ้นมา
- มีสวนหลังบ้าน อย่างน้อยล้างจักรยานหรือถ้าขี้เกียจพาหมาออกไปเดินก็มีที่เล็กๆ ให้วิ่งได้ง่ายๆ
- ราคาพอไหว! อันนี้สำคัญสุด ราคาบ้านใน Randstad ขึ้นไปเยอะมาก 100sqm ใน Randstad แบบมีสวน ใกล้สถานีรถไฟ (ปั่นจักรยานไม่เกิน 10 นาที) บางที่ขึ้นไปเป็น €1,000,000 ถึงจะกู้ได้ก็ผ่อนเยอะกว่าค่าเช่า ขนาด Bennekom หลังที่ซื้อก็เรียกว่าเกิน budget ไปพอสมควร
หลังอื่นก่อนที่จะได้ที่ Bennekom ก็ไปดูแถว Ede แต่สุดท้ายก็มาจบที่นี่เพราะรอบบ้านดูสงบกว่าที่อื่น (ก็สงบกว่าจริง ยกเว้นดอกไม้ไฟที่เล่นกันบ้าคลั่งมากประเทศนี้) หลังจากได้บ้านก็ต้องย้ายของและยกเลิกสัญญาเช่าอีก กว่าจะทำเรื่องจบก็ต้นเดือนธันวาคม รวมระยะเวลาเริ่มหาบ้านตั้งแต่ประมาณปลายกรกฏาคม จนได้กุญแจประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ก็ประมาณ 3 เดือนครึ่ง + ย้ายของ + ยกเลิกบ้านเช่าอีกประมาณ 1 เดือน รวมแล้วก็ประมาณ 4 เดือนกว่าจะเริ่มนิ่ง
ย้ายมาบ้านใหม่เสร็จก็มีของที่ต้องซื้อ + เปลี่ยนพอสมควร อย่างแรกที่ต้องซื้อก็เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ตามด้วยเครื่องล้างจานที่ของที่มากับบ้านล้างไม่สะอาด + microwave เพราะเตาอบที่บ้านไม่มี microwave เป็นแค่ oven อย่างเดียว! ตอนนี้ยังเหลือหลอดไฟในบ้านที่เป็นแบบห้อยลงจากเพดานแขวน ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพราะหัวชนไปหลายรอบมาก แต่ยังไม่มีเวลา + แรงจะเปลี่ยน เรียกว่ากว่าจะเรียบร้อยคงอีกซักพัก
อย่างนึงที่ดีสำหรับบ้านหลังนี้คือ บ้านสร้างประมาณปี 2018 หลายอย่างยังใหม่อยู่เลยไม่ต้อง renovate อะไรเหมือนบ้านคนอื่น คิดว่าถ้าต้อง renovate กว่าจะเรียบร้อยก็คงยาวถึงสิ้นปีหน้า
อื่นๆ #
อย่างนึงที่ปีนี้ทำสำเร็จคือพาที่บ้านมา Netherlands เสียอย่างเดียวสภาพอากาศที่นี่ช่วงสงกรานต์แย่มาก ลมแรง ฝนตก พาไปเที่ยว Keukenhof แล้วไม่สนุก คิดไว้ว่าจะพามาอีกแต่เป็นช่วงหน้าร้อนแทนช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศไม่เลวร้ายมาก แต่ไว้ผ่านปีใหม่กลับไทยแล้วเดี๋ยวค่อยวางแผนอีกที
2025 #
ปีนี้เขียนเร็วกว่าปีก่อนเพราะอาทิตย์นี้จะหายตัวยาวไป Slovenia 🇸🇮 อีกเช่นเคย คิดว่าคงจะเป็น yearly trip ไปอีกหลายปี
ปีหน้าก็คงอยากเหมือนปีที่แล้วคือขอให้เป็นปีที่นิ่งและได้พักบ้าน ปีนี้เหนื่อยแล้ว ทั้งเรื่องงานและส่วนตัว แก่จะเข้าเลข 4 เป็น ปีสุดท้ายของช่วงอายุเลข 3 แล้วก็หวังว่าชีวิตจะนิ่งและน่าเบื่อบ้างหละ